รับทำSEOราคาถูก, โปรโมทเว็บ, รับจ้างโฆษณาสินค้า

อุปกรณ์ออกบูธ, บูธสำเร็จรูป

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทาสีอาคาร รับติดป้ายแบนเนอร์ ป้ายโฆษณา รับติดแบนเนอร์ รับติดป้ายแบนเนอร์ ป้ายโฆษณา รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

ผู้เขียน หัวข้อ: การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คือสิ่งสำคัญที่เราต้องใส่ใจ  (อ่าน 72 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

motherhood

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
  • รับโปรโมทเว็บ รับโพสต์เว็บราคาถูก โปรโมทเว็บ www.posthitz.com
    • ดูรายละเอียด

Permalink: การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คือสิ่งสำคัญที่เราต้องใส่ใจ
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คือสิ่งสำคัญที่เราต้องใส่ใจ

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คือสิ่งสำคัญที่เราต้องใส่ใจ
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าแม่ควรให้นมบุตรเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหลายคนที่ไม่เห็นถึงความสำคัญของ “การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่” มีคุณแม่หลายคนที่ให้นมลูกจนถึงช่วงที่ตัวเองต้องกลับไปทำงานต่อ เมื่อเลิกงานกลับถึงบ้านอาจจะมีโอกาสให้นมลูกแค่นิดหน่อย เช้าวันรุ่งขึ้นก็ต้องกลับไปทำงานอีก ไม่ได้มีการปั๊มนมเก็บไว้ให้ลูกได้กินนมแม่อย่างจริงจังอย่างน้อยก็ถึง 6 เดือน ในขณะที่ยังมีคุณแม่ฟูลไทม์อีกหลายคนที่ให้ลูกกินนมถึง 2-3 ขวบเลยด้วยซ้ำ วันนี้เราจะมาเน้นย้ำถึงคุณประโยชน์ของนมแม่และสารอาหารที่มีในนมแม่กัน


นมแม่คืออะไร?
นมแม่คือน้ำนมที่ถูกสร้างขึ้นตามกระบวนการทางธรรมชาติ เป็นน้ำนมที่เอาไว้เป็นอาหารสำคัญของเด็กทารก ซึ่งพบได้ทั้งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและมนุษย์ เป็นสารอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยที่อยู่ในช่วงแรกเกิดไปจนถึง 1 ปี การผลิตน้ำนมของคุณแม่จะเริ่มตั้งแต่การตั้งครรภ์ 16-22 สัปดาห์ โดยร่างกายจะกระตุ้นให้เต้านมมีการผลิตน้ำนมออกมา แต่ยังอยู่ในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ยิ่งอายุครรภ์มากขึ้น แม่บางคนก็จะมีน้ำนมไหลออกมาที่หัวนมบ้างหากมีน้ำนมมาก ภายหลังการคลอดแล้ว ฮอร์โมนในร่างกายก็จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการสร้างน้ำนมมากขึ้นจนรู้สึกคัดตึงเค้านม แม้ในช่วงที่ลูกน้อยไม่ได้ดื่มนม ร่างกายก็ยังคงผลิตน้ำนมออกมาตามธรรมชาติ

เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของทารกยังไม่สมบูรณ์ ทารกจะมีภูมิคุ้มกันโดยรับแอนติบอดีต่างๆตามที่แม่สร้างขึ้นผ่านทางนมแม่ นมแม่จึงช่วยให้ทารกสามารถปรับตัวสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อปกป้องทารกจากสภาวะแวดล้อมที่อยู่อาศัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้ นมแม่จึงถือเป็นอาหารและยาที่ดีที่สุดของทารก ซึ่งแตกต่างจากนมผงปรุงแต่งที่ถึงแม้ว่าบริษัทผู้ผลิตจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความใกล้เคียงกับนมแม่ แต่ไม่สามารถสังเคราะห์สารก่อภูมิคุ้มกันที่มีความจำเพาะตามที่แม่สร้างได้


9 ข้อดีของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

1. นมแม่เป็นสารอาหารธรรมชาติ ปลอดภัยกับลูกมากที่สุด
ไม่มีนมใดๆที่ปลอดภัยและได้สารอาหารที่ร่างกายต้องการเทียบเท่านมแม่ แม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลไปแค่ไหน ก็ไม่สามารถเลียนแบบนมจากสัตว์อื่นๆหรือนมสังเคราะห์ใดๆ ที่ทั้งปลอดภัยและมีสารอาหารได้เท่ากับนมแม่

2. เด็กที่เติบโตมาจากนมแม่จะแข็งแรงกว่า
เพราะในน้ำนมแม่ทุกหยดกลั่นมาจากภายในร่างกายของแม่เอง ภูมิต้านทานต่างๆตามที่ร่างกายของแม่สร้างขึ้นจะถูกถ่ายทอดผ่านน้ำนม เมื่อลูกได้กินนมแม่ก็จะได้รับภูมิต้านทานต่างๆไปด้วย ซึ่งนมวัวหรือนมสังเคราะห์อื่นๆจะไม่มีภูมิต้านทานเหล่านี้

3. หมดปัญหาท้องผูก
เพราะนมแม่นั้นย่อยง่าย ทำให้ลูกไม่ต้องทรมานกับอาการท้องผูก แต่หากลูกกินนมวัวหรือนมประเภทอื่นจะพบปัญหาท้องผูกได้มากกว่า

4. ลูกจะไม่อ้วนจนเกินไป
เด็กแรกเกิดที่ดูว่าอ้วนจ้ำม่ำน่ารักนั้นมักมีน้ำหนักตัวเกินมาตราฐาน สาเหตุมาจากการเลี้ยงลูกด้วยนมวัวหรือนมสังเคราะห์ชนิดอื่นๆ นั่นเอง ในขณะที่การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้น ลูกจะไม่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเกิน น้ำหนักตัวของลูกจะเป็นไปตามมาตราฐานของเด็กในแต่ละวัยอย่างธรรมชาติ

5. เกิดผื่นผ้าอ้อมน้อยลง
ผื่นผ้าอ้อมเกิดจากความอับชื้นและเกิดปฏิกริยาของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งกรณีที่เราเลี้ยงลูกด้วยนมวัวนั้นของเสียของลูกจะมีเชื้อแบคทีเรียมากกว่า เมื่อมารวมกับความอับชื้นจากการใส่ผ้าอ้อม ผิวของลูกจะเกิดอาการผื่นแดงที่เรียกว่าผื่นผ้าอ้อม ซึ่งหากเราเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ ของเสียของลูกจะมีเชื้อแบคทีเรียน้อยกว่ามาก โอกาสที่ลูกจะต้องทรมานกับอาการผื่นผ้าอ้อมก็จะลดลงด้วย

6. เป็นการสานสัมพันธ์แม่ลูก
การให้ลูกได้ดูดนมจากอกแม่เองเป็นความรู้สึกที่ดีมาก มีแต่แม่ที่เคยให้ลูกดูดนมจากอกตัวเองเท่านั้นที่จะรู้สึกได้ นอกจากนั้นตลอดเวลาที่ลูกดูดนมจากอกแม่ ลูกก็จะมองหน้าแม่ของตัวเอง ทำให้ช่วงเวลาที่ให้นมลูกนั้นเป็นช่วงเวลาที่ทรงคุณค่าที่สุด เพราะแม่ลูกจะได้สบตา ได้พูดคุย ได้แสดงความรักต่อกัน ทำให้ลูกสามารถรับรู้ได้ว่าแม่ของเขารักเขามากแค่ไหน นอกจากนั้นการที่ลูกดูดนมจากอกของแม่บ่อยๆ จะทำให้ลูกจำกลิ่น เสียง หน้าตา และสัมผัสต่างๆของแม่ได้เร็วกว่าเด็กที่กินนมจากขวด

7. แม่จะผอมเร็วขึ้น
หลังจากคลอดลูก แม้ว่าร่างกายของคุณแม่จะลดน้ำหนักลงไปได้บ้าง แต่ระบบภายในรวมถึงมดลูกอาจจะยังไม่เข้าที่เท่าที่ควร การเลี้ยงลูกโดยให้ลูกดูดนมแม่จากอกนั้น จะช่วยกระตุ้นร่างกายของแม่ให้หลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่ง ซึ่งจะออกมาเฉพาะตอนที่ให้ลูกดูดนมแม่เท่านั้น ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะช่วยให้มดลูกหดตัวเข้าที่ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นการที่ร่างกายต้องผลิตนมแม่จะช่วยเผาผลาญไขมันต่างๆตามหน้าท้องออกไปด้วย ทำให้รูปร่างของแม่ที่เพิ่งคลอดลูกกลับมาผอมเพรียวได้เร็วกว่าแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมวัว โดยเฉลี่ยแล้วการที่เลี้ยงลูกเอง ให้ลูกกินนมจากอกแม่เอง จะทำให้น้ำหนักตัวของแม่จะลดลงเฉลี่ยเดือนละ 1-2 กิโลกรัม ซึ่งหากเราให้ลูกกินนมแม่ตลอด 6 เดือนแรกหลังคลอด น้ำหนักตัวและรูปร่างของคุณแม่ก็จะเข้ารูปและเกือบจะกลับมาเป็นปกติ

8. เป็นอาหารสะดวกสำหรับลูก
นมแม่เป็นแหล่งอาหารของลูกน้อยของเราที่สามารถให้ลูกกินได้ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อไรที่ลูกหิว เราก็สามารถให้ลูกกินนมจากอกของเราได้ทันที ไม่ต้องพกขวดนม น้ำร้อน นมผง ฯลฯ สะดวกและรวดเร็วทันใจลูก

9. อุณหภูมิกำลังดีสำหรับลูก
แม่ไม่ต้องกังวลว่านมแม่นั้นจะร้อนหรือเย็นเกินไปสำหรับลูก เพราะนมแม่ที่ออกมาจากเต้าจะมีอุณหภูมิที่พอเหมาะกับลูกทันที หากเลี้ยงลูกด้วยนมวัว เราจะต้องตรวจสอบก่อนเสมอว่านมที่ผสมนั้นจะร้อนหรือเย็นเกินไปหรือไม่


สารอาหารในน้ำนมแม่
สารอาหารในน้ำนมแม่มีความผันแปรตามระยะการผลิตน้ำนม หนังสือ “มีอะไรในน้ำนมแม่” ของศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยได้อธิบายถึงส่วนประกอบของน้ำนมแม่ที่ร่างกายแม่ผลิตขึ้นในแต่ละระยะไว้อย่างชัดเจน ว่ามีด้วยกัน 3 ระยะ ดังนี้

- ระยะหัวน้ำนม (Colostrum) มักมีสีเหลือง บางคนอาจเรียกว่าน้ำนมเหลือง ที่จะถูกสร้างขึ้นเพียงระยะ 1-3 วันแรกภายหลังการคลอดบุตรเท่านั้น มีสารภูมิคุ้มกันในปริมาณสูง ได้แก่ LgA เซลล์เม็ดเลือดขาว ไลโซไซม์ (Lysozyme) เอมไซม์ที่มีฤทธิ์ย่อยสลายผนังเซลล์ของเชื้อแบคทีเรียทำให้เชื้อตาย Lactoferrin โปรตีนที่ช่วยต่อต้านเชื้อโรค และ Bifidus Growth Factor สารช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแล็กโตบาซิลัส ให้แบคทีเรียไม่สามารถอาศัยอยู่ในลำไส้ได้ นอกจากนี้ ยังมีวิตามินที่ละลายได้ในไขมันในปริมาณสูง ได้แก่ วิตามินเอ แคโรทีน และวิตามินอีสูงกว่านมแม่ปกติ และมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยขับขี้เทาและลดปัญหาตัวเหลืองของเด็กด้วย น้ำนมในระยะนี้จะมีปริมาณน้ำตาลแลคโตสไม่สูงมากนัก มีปริมาณแร่ธาตุต่างๆ เช่น โซเดียม คลอไรด์ แมกนีเซียม ปริมาณสูง แต่มีปริมาณโพแทสเซียม และแคลเซียมต่ำกว่านมที่ผลิตระยะหลัง ถือได้ว่าน้ำนมระยะนี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายมากกว่าการเร่งการเจริญเติบโต

- ระยะน้ำนมปรับเปลี่ยน (Transitional milk) ในระยะต่อมาจะมีลักษณะขาวขึ้น เปลี่ยนจากหัวน้ำนมแม่เป็นน้ำนมแม่ จะหลั่งในช่วง 5 วันจนถึง 2 สัปดาห์หลังคลอด โดยมีส่วนประกอบที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโต และพัฒนาการเพิ่มมากขึ้น

- ระยะน้ำนมแม่ (Mature milk) ระยะนี้น้ำนมจะมีสีขาว มีไขมันมากขึ้น ปริมาณน้ำนมที่ผลิตจะมีมากขึ้น ประกอบด้วยธาตุอาหารหลัก ซึ่งได้แก่ โปรตีน ไขมัน น้ำตาลแลคโตส สารที่ช่วยระบบการย่อยและฮอร์โมนต่างๆ และสารที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องร่างกาย อาทิ Immunoglobulins เม็ดเลือดขาว และโปรตีนต่างๆที่ช่วยต่อต้านเชื้อโรค


จากการศึกษาองค์ประกอบของน้ำนมภายหลังจาก 4 เดือนหลังคลอด พบว่าปริมาณของธาตุอาหารหลักในนมแม่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับแม่ ได้แก่ น้ำหนักของแม่ ปริมาณโปรตีนที่แม่ได้รับ การมีประจำเดือน และความถี่ของการให้นมบุตร แม่ที่ผลิตน้ำนมในปริมาณมากจะมีความเข้มข้นของไขมันและโปรตีนในน้ำนมต่ำ แต่มีความเข้มข้นของแลคโตสสูงกว่าแม่ที่ผลิตน้ำนมได้น้อย

โปรตีนส่วนใหญ่ที่อยู่ในน้ำนมได้แก่ เคซีนชนิดเบต้า อัลฟาแลคตาบูมิน แลคโตเฟอริน IgA ไลโซไซม์ และซีรัมอัลบูมิน แต่พบว่าการรับประทานอาหารของแม่ไม่ได้ส่งผลต่อปริมาณโปรตีนในน้ำนม

ไขมันในน้ำนมประกอบด้วยไขมันหลายชนิด ได้แก่ ไตรกลีเซอไรด์ ฟอสโฟไลปิดส์ โคเลสเตอรอล ไดกลีเซอไรด์ โมโนกลีเซอไรด์ กรดไขมันสายยาวชนิดไม่อิ่มตัว จากการศึกษาพบว่าไขมันในนมแม่ที่ผลิตช่วงกลางคืนและช่วงเช้าของวันจะมีปริมาณไขมันน้อยกว่าน้ำนมที่ผลิตในช่วงกลางวันหรือช่วงเย็นของวัน ปริมาณไขมันยังสัมพันธ์กับอาหารที่แม่รับประทาน

น้ำตาลชนิดที่พบในนมแม่คือน้ำตาลแลคโตส พบว่าแม่ที่ผลิตน้ำนมได้ปริมาณมากจะมีปริมาณน้ำตาลแลคโตสสูงมากกว่าแม่ที่ผลิตน้ำนมได้น้อย

วิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่มีในนมแม่ ได้แก่ วิตามิน A, B1, B2, B6, B12, C, D, E, K และแร่ธาตุต่างๆ ได้แก่ เหล็ก แคลเซียม ไอโอดีน เป็นต้น ถึงแม้ว่าปริมาณสารอาหารสำคัญในนมแม่จะเพียงพอต่อความต้องการของทารก แต่ปริมาณธาตุอาหารหลายชนิดในน้ำนมแม่อาจมีความแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารและร่างกายของแม่

ในเมื่อนมแม่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายขนาดนี้แล้ว การให้ลูกได้กินนมแม่ไปนานๆจึงเป็นเรื่องที่ดีมากนะคะ พยายามให้เขากินนมแม่ไปอย่างน้อยๆก็สัก 6 เดือน หรือจะลากยาวไปถึง 1  ปีก็ได้ คุณแม่สามารถหาอุปกรณ์ต่างๆมาเป็นตัวช่วยให้การให้นมเป็นไปได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปั๊มนม ผ้าคลุมให้นม  ถุงเก็บน้ำนม หรือ หมอนรองให้นม เพื่อเพิ่มโอกาสและระยะเวลาให้ลูกได้กินนมแม่ไปนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

บทความน่าสนใจ >>  หัดเยอรมัน โรคที่ติดต่อจากแม่สู่ลูกได้ หรือ  หน้ากากอนามัย ป้องกันไวรัสโคโรนาได้จริงมั้ย?
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th



โปรโมทเว็บ โฆษณาสินค้าออนไลน์ ประกาศขายสินค้าฟรี รับจ้างโพสเว็บ รับทำSEOราคาถูก