E-Cigarette หรือ บุหรี่ไฟฟ้า เป็นเทคโนโลยี่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ คิดค้นโดยบริษัท Ruyan ของประเทศจีน โดยมีส่วนประกอบหลักสำคัญ ได้แก่ 1. แบตเตอรี่ 2. ตัว Atomizer และ 3. ไส้นิโคตินหรือที่เรียกว่า Cartridge
ไส้นิโคติน จะบรรจุของเหลวที่มีสาร Propylene Glycol (เป็นสารสำคัญที่สุดที่เราคงจะได้ทำความรู้จักต่อไป) เป็นส่วนประกอบหลัก และมีนิโคตินในปริมาณต่างๆ ตั้งแต่ 0 มิลลิกรัมไปจนถึง 24 มิลลิกรัม
เมื่อของเหลวที่บรรจุใน Cartridge โดนคลื่นอุลตร้าโซนิคหรือความร้อนจาก Atomizer (ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี่ของผู้พัฒนาแต่ละราย) ก็จะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นไอน้ำหรือละอองน้ำ (Vapour) เปรียบได้กับควันบุหรี่ปลอมๆ เราสามารถสูบเข้าปอดได้เหมือนควันบุหรี่ ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการสูบบุหรี่ แต่เนื่องจากมันเป็นเพียงละอองน้ำ จึงไม่เกิดอันตรายหรือทิ้งสารพิษสะสมใดๆ ไม่มีสารก่อมะเร็ง ต่างกับควันบุหรี่ที่มีสารพิษมากมายมากกว่า 4,000 ชนิด รวมถึงสารหนู และคาร์บอนมอนนอกไซด์ที่เกิดจากการเผาใหม้ และที่อันตรายมากที่สุดก็คือ ทาร์ หรือน้ำมันดิน ที่จะเกาะที่ปอดของคนที่สูบบุหรี่
บุหรี่ไฟฟ้า จึงเป็นเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้คนที่ติดบุหรี่ สามารถหลีกเลี่ยงจากโรคร้ายที่เกิดจากการสูบบุหรี่ หรือสามารถเลิกสูบบุหรี่จริงได้อย่างถาวร โดยที่ไม่รู้สึกว่าขาดบุหรี่
เราคงบอกไม่ได้ว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้า เป็นการสูบเพื่อสุขภาพ เพราะอย่างไรก็ตามมันยังมีนิโคตินที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอยู่ดี โดยเฉพาะผลต่อหัวใจ ซึ่งไม่ต่างกับการสูบบุหรี่ที่ทำจากใบยาสูบ แต่เราจะไม่ได้รับสารพิษต่างๆ รวมทั้งสารก่อมะเร็ง ที่ล้วนมาจากใบยาสูบทั้งสิ้น (คนที่ติดบุหรี่ คือติดนิโคติน แต่ในขณะที่เราต้องการรับนิโคตินจากยาสูบ จะมีสารพิษต่างๆ แถมมาให้ด้วย)
หรือถ้าเปรียบให้ชัดขึ้น การสูบบุหรี่ไฟฟ้า เหมือนกับการเคี้ยวหมากฝรั่งเลิกบุหรี่ ถ้าเราใช้ในปริมาณที่มาก ก็จะได้รับนิโคตินเป็นจำนวนมาก แต่เหตุผลที่การเคี้ยวหมากฝรั่งไม่ได้ผล เพราะคนที่ติดบุหรี่ยังคงต้องการความรู้สึกของการอัดควันเข้าปอด
แนะนำข้อมูลเพิ่มเติม
(บุหรี่ไฟฟ้า)
