รับทำSEOราคาถูก, โปรโมทเว็บ, รับจ้างโฆษณาสินค้า

อุปกรณ์ออกบูธ, บูธสำเร็จรูป

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทาสีอาคาร รับติดป้ายแบนเนอร์ ป้ายโฆษณา รับติดแบนเนอร์ รับติดป้ายแบนเนอร์ ป้ายโฆษณา รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

ผู้เขียน หัวข้อ: โคตรท็อปฟอร์ม! 5 ประเด็นร้อนหลังบาเยิร์นถล่มยับสับบาร์ซ่าเละเทะ  (อ่าน 39 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

thitipan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 77
  • รับโปรโมทเว็บ รับโพสต์เว็บราคาถูก โปรโมทเว็บ www.posthitz.com
    • ดูรายละเอียด

Permalink: โคตรท็อปฟอร์ม! 5 ประเด็นร้อนหลังบาเยิร์นถล่มยับสับบาร์ซ่าเละเทะ
เป็นคืนที่ บาร์เซโลน่า พบกับความอับอายเป็นอย่างยิ่งหลังต้องพ่ายให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ขาดลอยถึง 8-2 เลยทีเดียว ก่อนเกมคงไม่มีใครคิดว่าผลการแข่งขันจะออกมามโหฬารขนาดนี้ คงต้องชมความไร้เทียมทานของ "เสือใต้" โดยเฉพาะแนวรุกทั้งตัวจริงตัวสำรองที่ช่วยกันกระหน่ำทำประตูถึง 8 ประตู เกิดอะไรขึ้นในเกมนี้ เรามาเจาะลึกประเด็นน่าสนใจกัน
1.ค่ำคืนมุลเลอร์

ก่อนเกมนี้หลายคนโฟกัสที่ ลีโอเนล เมสซี่ หรือไม่ก็ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แต่ MVP ของค่ำคืนที่ผ่านมาหรือเรียกได้ว่าเป็นคีย์แมนคนสำคัญในเกมรุกของ “เสือใต้” ก็ต้องเป็น โธมัส มุลเลอร์ คนนี้ แข้งวัยเก๋าชาวเยอรมันจบแมตช์ด้วยการทำ 2 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ และผู้เล่นบาร์เซโลน่าหยุดการเคลื่อนที่ของเขาไม่อยู่

แม้จะเข้าสู่วัย 30 ปีแล้วแต่คลาสของ “โธมัส มุลเลอร์” ยังเจ๋งไม่เปลี่ยนแปลง แค่ในลีกฤดูกาลนี้เจ้าตัวก็ทำ 8 ประตูพร้อมกับครองแอสซิสต์มากที่สุด 21 ครั้งแล้ว ขณะที่เกมนี้เรียกได้ว่าท็อปฟอร์มสุดๆ จังหวะประตูแรกต้องชมความนิ่งในการแปะบอลเร็วให้ เลวานดอฟสกี้ ก่อน มุลเลอร์ จะวิ่งซัดด้วยซ้ายสุดเฉียบขาด ขณะที่ประตูที่สองของเขาโชว์ให้เห็นสัญชาตญาณการจบสกอร์ของเขาหลังวิ่งโฉบตัดหน้า ล็องเล่ต์ ทำประตู

นอกจากเรื่องในสนามที่ มุลเลอร์  คว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ของเกมนี้ เรื่องนอกสนามเขาก็แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่ยอดเยี่ยมหลังให้สัมภาษณ์ว่า “ในรอบรองชนะเลิศมันจะกลับมาเริ่มที่ 0-0 เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อชนะรอบ 8 ทีมหรือชนะรองรองฯ แต่เรามาที่นี่เพื่อชนะรอบชิง”

2.ศัตรูที่โหดเหี้ยมที่สุดของบาร์ซ่า

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่บาร์เซโลน่าเสียประตูตั้งแต่ 5 ลูกขึ้นไปใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1949 ที่ “เจ้าบุญทุ่ม” เสียถึง 7 ประตูในเกมเดียว มากไปกว่านั้นยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1951 ที่พวกเขาพ่ายแพ้สกอร์ห่างถึง 6 ลูก และยังเป็นครั้งแรกที่มีทีมยิง 8 ประตูในรอบน็อคเอ๊าท์ ชปล.

เครดิตรวมๆต้องให้ความโหดของ บาเยิร์น แต่ฝั่งบาร์เซโลน่าเองก็ทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้จักจำ แทร์ ชเตเก้น พยายามเล่นบอลสั้นกับกองหลังในเขตโทษตัวเองซึ่งพอเจอคู่แข่งบีบพื้นที่ใส่ก็เสียบอลหน้าปากประตูตลอด ทั้งที่รู้ว่าเล่นด้วยวิธีนี้ไม่ได้ก็ยังฝืนเล่นต่อ ขณะที่กองกลาง เฟร็งกี้ เดอ ยอง และ เซร์จี โรแบร์โต้ พ่ายแพ้ในแดนกลางอย่างชัดเจน ด้านแบ็กขวา เนลสัน เซเมโด้ โดนแข้งบาเยิร์นเจาะกระจุยกระจาย

บาร์ซ่ายังเกิดข้อผิดพลาดในเกมรับตลอดซึ่งหากคุณได้ดูพวกเขานับตั้งแต่รีตาร์ทซีซั่นมาคงเข้าใจเหตุผลว่าทำไมเสียแชมป์ให้กับ เรอัล มาดริด “เสือใต้” ถือทำได้ยอดเยี่ยมแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกมนี้คือคนคงพูดถึงความย่ำแย่ของ บาร์เซโลน่า มากกว่า

3.คูตี้ล้างแค้น

โคตรท็อปฟอร์ม! 5 ประเด็นร้อนหลังบาเยิร์นถล่มยับสับบาร์ซ่าเละเทะ
ค่ำคืนที่ว่าแฟนบาร์เซโลน่าเจ็บปวดแล้วมีสิ่งที่ตอกย้ำความเจ็บนี้เข้าไปอีกเมื่อ บาเยิร์น มิวนิค ส่งตัวสำรองอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงสนามในช่วง 15 นาทีซึ่งเขาถือเป็นนักเตะบาร์ซ่าปล่อยให้ยืมตัวมาในฤดูกาลนี้และถูกคาดหมายว่าจะต้องกลับสู่ต้นสังกัดหลังพี่เสือเลือกที่จะไม่ซื้อขาดเนื่องจากค่าตัวแพงเกินไป

มื่อ คูตินโญ่ ลงมาไม่กี่นาทีเขาก็ครอสบอลให้ เลวานดฟสกี้ โขกประตูที่ 6 ให้กับ “เสือใต้” และในช่วง 5 นาทีสุดท้ายเขาก็กระหน่ำอีก 2 ประตูใส่ต้นสังกัดแม่ พอเห็นฟอร์มแบบนี้แล้ว น่าจะเป็นคำถามว่า บาร์ซ่า สมควรที่จะปล่อย คูตินโญ่ ออกจากทีมอีกครั้งไหม เพราะมีข่าวอย่างหนักกับ อาร์เซน่อล ที่หวังจะยืมตัวมาใช้งานในฤดูกาลหน้า ในสถานการณ์ที่ทีมกำลังเจอวิกฤตทางการเงินทำให้ซื้อตัวผู้เล่นไม่ได้ หากปล่อย คูตินโญ่ ไปอีกก็น่าเสีดายพอสมควร รอดูกันว่าเมื่อปิดตลาดเจ้าตัวจะกลับมาเสื้อบาร์เซโลน่าอีกครั้งหรือไม่

4.เซเตียนเตรียมชะตาขาด

เวลาของ กิเก้ เซเตียน ในการเป็นกุนซือบาร์เซโลน่าคงจะมาจุดสิ้นสุดแล้วจริงๆ การพลาดแชมป์ลาลีการวมถึง โกปา เดล เรย์ ก็ถือว่าเสียหายมากทีเดียว การพ่ายแพ้ถล่มทลายแบบนี้ยิ่งน่าขายหน้าเข้าไปใหญ่

ในช่วงครึ่งแรก เซเตียน แทบไม่ได้ออกแอ็คชั่นกระตุ้นนักเตะเลย การยืนนิ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจ ไม่มีไอเดียในการแก้เกม จากทีมแย่อยู่แล้วยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก ขณะที่ อ็องตวน กรีซมันน์ ถูกส่งลงมาแทนที่ของ เซร์จี้ โรแบร์โต้ ในช่วงพักครึ่งซึ่งเป็นการเปลี่ยนตัวครั้งแรกของเกม หลายคนมองว่าอาจจะช้าเกินไปเพราะ 30 นาทีแรกพวกเขาตามหลังถึง 4-1 โค้ชน่าจะต้องมีความเด็ดขาดและน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นบ้าง ขณะที่ตัวสำรองอีกหนึ่งคนอย่าง อันซู ฟาติ ลงมานาทีที่ 70 ซึ่งก็ถือว่าช้าเกินไปแล้วจริงๆ สรุปแล้วเกมนี้เขาใช้ตัวสำรองแค่ 2 คนเท่านั้น

เซเตียน เซ็นสัญญากับทีมจนถึงปี 2022 นี่คงเป็นความผิดพลาดอีกครั้งของบอร์ดบริหารบาร์เซโลน่า เชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้เก้าอี้กุนซือของบาร์เซโลน่าคงว่างลงอีกครั้ง

5.ฟอร์มแบบนี้ถึงแชมป์

บาเยิร์น มิวนิค ยิงประตูรวมในทุกรายการ 155 ประตูจากการแข่งขันทั้งหมด 50 นัด (บุนเดสลีกา 100, เดเอฟเบ โพคาล 16 และ แชมเปี้ยนส์ ลีก 39) ซึ่งเฉลี่ยตกเกมละ 3.1 ประตูเลยทีเดียว และจำนวนประตูนี้ถือว่ามากกว่าฤดูกาล 2012/13 คว้าทริปเปิ้ลแชมป์เสียอีก (151 ประตู)

ณ ตอนนี้ “เสือใต้” คว้าชัยชนะรวดมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มและยังไม่มีนัดไหนที่สะดุดเลยแม้แต่น้อย เมื่อดูจากฟอร์มแล้วก็คงบอกได้ว่าหากพวกเขาพลาดแชมป์ไปถือว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามต้องมารอลุ้นกันว่าคืนนี้ใครจะเป็นคนที่มาท้าชิงพวเขาในรอบรองชนะเลิศซึ่งหลายคนคาดหมายว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เต็งหนึ่งในรายการนี้ แค่คิดก็มันส์แล้วหาก “เรือใบสีฟ้า” ต้องมาปะทะกับ “เสือใต้” คงเป็นเกมที่สาดเกมรุกใส่กันไม่ยั้ง รอดูกันว่าลูกทีมของ ฮันซี่ ฟลิค จะท็อปฟอร์มในรอบต่อไปหรือไม่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :  วิเคราะห์บอล, ดูบอลสดวันนี้, บ้านผลบอลสด




โปรโมทเว็บ โฆษณาสินค้าออนไลน์ ประกาศขายสินค้าฟรี รับจ้างโพสเว็บ รับทำSEOราคาถูก