รับทำSEOราคาถูก, โปรโมทเว็บ, รับจ้างโฆษณาสินค้า

อุปกรณ์ออกบูธ, บูธสำเร็จรูป

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทาสีอาคาร รับติดป้ายแบนเนอร์ ป้ายโฆษณา รับติดแบนเนอร์ รับติดป้ายแบนเนอร์ ป้ายโฆษณา รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

ผู้เขียน หัวข้อ: Doctor At Home: ต้อเนื้อ/ต้อลิ้นหมา (Pterygium)  (อ่าน 6 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2749
  • รับโปรโมทเว็บ รับโพสต์เว็บราคาถูก โปรโมทเว็บ www.posthitz.com
    • ดูรายละเอียด
Doctor At Home: ต้อเนื้อ/ต้อลิ้นหมา (Pterygium)
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2025, 03:05:47 PM »

Permalink: Doctor At Home: ต้อเนื้อ/ต้อลิ้นหมา (Pterygium)
Doctor At Home: ต้อเนื้อ/ต้อลิ้นหมา (Pterygium)

ต้อเนื้อ พบมากในประเทศเขตร้อน ที่ค่อนข้างแห้งแล้งและมีฝุ่นลมจัด จึงเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในบ้านเราในแทบทุกภาคของประเทศ แต่จะพบเป็นกันมากในภาคอีสาน

พบมากในผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-55 ปี ไม่พบในเด็กที่อายุต่ำกว่า 14 ปี ผู้ชายและผู้หญิงมีโอกาสเป็นเท่า ๆ กัน

สาเหตุ

ต้อเนื้อเป็นเยื่อบุตาที่เกิดการเสื่อมและหนาตัวขึ้น ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัด พบว่าการถูกแสงแดด (อัลตราไวโอเลต) เป็นประจำเป็นปัจจัยที่สำคัญของการเกิดโรคนี้ นอกจากนี้การถูกลม ฝุ่น ควัน ความร้อน สารเคมี และมลพิษทางอากาศเป็นประจำก็อาจทำให้เกิดโรคนี้ได้ ดังนั้นต้อเนื้อจึงพบบ่อยในคนทำงานกลางแจ้ง ซึ่งถูกแดด ลม ฝุ่น เป็นประจำ (เช่น ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ชาวประมง คนงานก่อสร้าง นักกีฬากลางแจ้ง เป็นต้น) ส่วนน้อยอาจพบในผู้ที่มีอาชีพที่ต้องสัมผัสกับสิ่งระคายเคืองตาอื่น ๆ เช่น คนงานในโรงงาน (ถูกสารเคมี) คนทำครัว (ถูกควัน ไอร้อน) เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ป่วยบางรายจะมีประวัติว่ามีพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคนี้ด้วย จึงเชื่อว่าปัจจัยทางกรรมพันธุ์อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดต้อเนื้อ


อาการ

จะเห็นแผ่นเนื้อเยื่อสามเหลี่ยมสีเหลือง ๆ ที่บริเวณตาขาวชิดตาดำ ส่วนมากจะเกิดที่ด้านหัวตา (ด้านในของตาส่วนที่อยู่ใกล้กับจมูก) ส่วนน้อยอาจพบที่หางตา ทั้งนี้เพราะส่วนของหัวตามีโอกาสกระทบกับสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดต้อเนื้อมากกว่าส่วนหางตา ประกอบกับมีหลอดเลือดมาเลี้ยงในบริเวณหัวตามาก

บางครั้งหลังจากถูกลมถูกแสงมาก ๆ หรือนอนดึก อาจเห็นหลอดเลือดขยายมีลักษณะแดงเรื่อ ๆ

โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกมีอาการผิดปกติแต่อย่างใด นอกจากบางครั้งมีการอักเสบจะมีอาการเคืองตา น้ำตาไหล ตาแดง หรือมีอาการปวดเล็กน้อย

ในบางรายเมื่อเป็นนานเป็นแรมเดือนแรมปี ต้อเนื้ออาจยื่นเข้าไปถึงกลางตาดำทำให้บังสายตา ตามัว มองไม่ถนัด หรือเห็นภาพซ้อนได้

บางรายอาจมีต้อเนื้อที่หัวตาและหางตาพร้อมกัน

ผู้ป่วยอาจเป็นต้อเนื้อที่ตาเพียงข้างเดียวหรือ 2 ข้างก็ได้


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนมากไม่มีภาวะแทรกซ้อนแต่อย่างใด นอกจากอาการเคืองตา ตาแดง

ในรายที่ต้อเนื้องอกยื่นเข้าไปที่กระจกตา อาจทำให้กระจกตาเปลี่ยนรูป เกิดสายตาเอียงแทรกซ้อนได้ ทำให้มองไม่ชัด

  หากปล่อยไว้นานเป็นแรมปี ต้อเนื้อจะค่อย ๆ งอกลุกลามขึ้นช้า ๆ จนยื่นเข้าไปปิดตาดำจนมิด ก็อาจบังสายตาทำให้มองไม่ถนัดได้

ที่พบได้น้อยมากก็คือ การเกิดแผลเป็นที่กระจกตา เนื่องจากปล่อยให้มีการอักเสบของกระจกตาเรื้อรัง ซึ่งอาจต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ และการตรวจพบแผ่นเนื้อเยื่อสามเหลี่ยมสีเหลือง ๆ ที่บริเวณหัวตา (บางรายอาจมีที่หางตาร่วมด้วย)

บางรายแพทย์อาจทำการตรวจวัดสายตา ตรวจดูลักษณะของกระจกตา (ดูว่าทำให้สายตาเอียงหรือไม่) รวมทั้งอาจทำการถ่ายภาพของตาที่เป็นต้อเนื้อเก็บไว้เพื่อใช้เปรียบเทียบดูการเปลี่ยนแปลงของโรคในวันข้างหน้า

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าไม่มีอาการอักเสบและต้อเนื้อยังไม่ยื่นเข้ากระจกตา ก็ไม่ต้องให้การรักษาใด ๆ แนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงแสงแดด ลม ฝุ่น ควัน ไอร้อน และสิ่งระคายเคืองตาต่าง ๆ ถ้าต้องออกกลางแดด ควรสวมแว่นตาดำที่สามารถกันแสงอัลตราไวโอเลต และหมั่นหยอดน้ำตาเทียม เพื่อป้องกันมิให้ต้อเนื้อลุกลาม

2. ถ้ามีการอักเสบ เคืองตา ให้ใช้ยาหยอดตาลดการอักเสบเป็นครั้งคราว ถ้าไม่ได้ผลหรืออักเสบมาก แพทย์อาจให้ใช้ยาหยอดตาสเตียรอยด์ ซึ่งจะใช้เท่าที่จำเป็น เมื่อดีขึ้นก็หยุดใช้ ถ้าใช้ติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้เป็นต้อหินเรื้อรังได้

3. ในรายที่ต้อเนื้อยื่นเลยขอบตาดำเข้าไปสัก 3-4 มม. หรือมีสายตาเอียงเกิดขึ้น แพทย์จะทำการผ่าตัดลอกออก ซึ่งมีอยู่หลายวิธีที่แพทย์เลือกใช้ให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย เช่น การลอกต้อเนื้อแบบธรรมดา (simple excision), การลอกต้อเนื้อและใช้เยื่อบุตาของผู้ป่วยเองแปะ (conjunctival  auto-grafting), การลอกต้อเนื้อและใช้เยื่อถุงน้ำคร่ำแปะ (amniotic membrane transplantation)

เนื่องจากผู้ป่วยที่ผ่าตัดลอกต้อเนื้อออกแล้วมีโอกาสเป็นต้อเนื้อกำเริบคืนกลับมาได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่แพทย์ผ่าตัดการลอกต้อเนื้อแบบธรรมดา เพื่อป้องกันการคืนตัวของต้อเนื้อ แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาเพิ่มเติมในผู้ป่วยบางรายเพื่อป้องกันการคืนตัวของต้อเนื้อ ด้วยการฉายรังสีบีตา (external beta radiation therapy) และ/หรือใช้ยาบางชนิด (เช่น Mitomycin-C) หยอดหลังผ่าตัด

และหลังการรักษาผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการถูกลม แดด ฝุ่น ควัน และไอร้อน เพื่อป้องกันต้อเนื้อกำเริบขึ้นใหม่

ในรายที่มีต้อเนื้อกำเริบหลังผ่าตัด แพทย์จะทำการผ่าตัดลอกต้อซ้ำอีก ซึ่งมักจะหายขาดได้

การดูแลตนเอง

หากสงสัยเป็นต้อเนื้อ  ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นต้อเนื้อ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา ใช้ยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    พยายามหลีกเลี่ยงการถูกแดด ลม ฝุ่น ควัน ไอร้อน และสิ่งระคายเคืองตาอื่น ๆ
    สวมแว่นตากันแดด กันลม กันฝุ่น เวลาออกไปในที่กลางแจ้งที่มีแดดจ้า ลม หรือฝุ่น

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้ว ยังมีอาการเคืองตา ตาแดง หรือตาอักเสบ
    มีอาการมองเห็นไม่ชัด หรือสงสัยสายตาเอียง
    ต้อเนื้อลุกลามเข้าไปในตาดำ
    ขาดยา หรือยาหาย
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ใช้ยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น คันตา ตาแดง ตาบวม หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

    พยายามหลีกเลี่ยงการถูกแดด ลม ฝุ่น ควัน ไอร้อน และสิ่งระคายเคืองตาอื่น ๆ
    เวลาออกไปทำงานในที่กลางแจ้ง หากมีแสงแดดจ้า ควรสวมแว่นตาดำที่สามารถกันแสงอัลตราไวโอเลต หากมีลมหรือฝุ่น ควรสวมแว่นที่สามารถใช้กันแดด กันลม และกันฝุ่นได้
    หมั่นใช้น้ำตาเทียมหยอดตาหลังจากออกไปในที่กลางแจ้ง หรือสัมผัสสิ่งระคายเคือง หรือเวลารู้สึกเคืองตา แสบตา ตาแห้ง

ข้อแนะนำ

1. บางรายอาจมีตุ่มนูนสีขาวเหลืองรูปสามเหลี่ยมหรือหลายเหลี่ยมเล็ก ๆ เกิดขึ้นตรงขอบตาดำด้านหัวตาหรือหางตา (ตรงกับบริเวณที่เป็นต้อเนื้อ) ซึ่งมักเป็นที่ตา 2 ข้าง เรียกว่า ต้อลม (pinguecula) มีสาเหตุเช่นเดียวกับต้อเนื้อ ส่วนใหญ่มักจะไม่ลุกลามเข้าตาดำ และไม่ต้องให้การรักษาแต่อย่างใด นอกจากบางครั้งอาจมีอาการอักเสบเคืองตา ก็ให้ใช้ยาหยอดตาแก้อักเสบเช่นเดียวกับต้อเนื้อ

ส่วนการผ่าตัดลอกออกนั้น แพทย์มักจะไม่แนะนำให้ทำ เพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นไม่สวยงาม และมักกลับกำเริบขึ้นใหม่อีก

2. ทั้งต้อเนื้อและต้อลมเป็นโรคที่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด และไม่มียาที่ใช้กัดต้อเนื้อให้หลุดได้ (ไม่ว่าจะเป็นยาแผนปัจจุบัน หรือแผนโบราณก็ตาม) และที่สำคัญผู้ป่วยต้องหลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดตาที่มีตัวยาสเตียรอยด์ผสมมาใช้เอง เนื่องเพราะหากใช้ติดต่อกันนาน ๆ อาจกลายเป็นต้อหินตาบอดได้



โปรโมทเว็บ โฆษณาสินค้าออนไลน์ ประกาศขายสินค้าฟรี รับจ้างโพสเว็บ รับทำSEOราคาถูก

Doctor At Home: ต้อเนื้อ/ต้อลิ้นหมา (Pterygium)
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2025, 03:05:47 PM »
??????????