รับทำSEOราคาถูก, โปรโมทเว็บ, รับจ้างโฆษณาสินค้า

อุปกรณ์ออกบูธ, บูธสำเร็จรูป

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทาสีอาคาร รับติดป้ายแบนเนอร์ ป้ายโฆษณา รับติดแบนเนอร์ รับติดป้ายแบนเนอร์ ป้ายโฆษณา รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จัก “ตับอักเสบ” สัญญาณโรคตับที่ไม่ได้เกิดจากไวรัสเพียงอย่างเดียว  (อ่าน 2 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2751
  • รับโปรโมทเว็บ รับโพสต์เว็บราคาถูก โปรโมทเว็บ www.posthitz.com
    • ดูรายละเอียด

Permalink: รู้จัก “ตับอักเสบ” สัญญาณโรคตับที่ไม่ได้เกิดจากไวรัสเพียงอย่างเดียว
รู้จัก “ตับอักเสบ” สัญญาณโรคตับที่ไม่ได้เกิดจากไวรัสเพียงอย่างเดียว

ตับเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่หลายอย่างในร่างกาย การเกิดโรคตับ ตับอักเสบ หรือความปกติใด ๆ ในตับ จึงเป็นปัญหาซีเรียสที่อาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างไม่รู้จบได้ ซึ่งการเกิดปัญหาที่ว่านั้นมักมีเริ่มต้นมาจากภาวะที่เรียกว่า “ตับอักเสบ”


นิยามของตับอักเสบ

Hepatitis (n.) หรือ ตับอักเสบ คือภาวะที่เนื้อเยื่อตับได้รับความเสียหายไม่ว่ามาจากสาเหตุอะไรก็ตาม และในภาวะเดียวกันนี้ภูมิคุ้มกันร่างกายก็เข้ามาต่อต้านและพยายามกำจัดสิ่งแปลกปลอมในเนื้อเยื่อตับ อาจกล่าวได้ว่าภาวะตับอักเสบเป็นกระบวนการอย่างหนึ่งที่ร่างกายพยายามรักษาและฟื้นฟู เซลล์หรือเนื้อเยื่อในตับให้กลับมาปกติ

ชนิดของตับอักเสบ

ตับอักเสบแบ่งเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ คือ ตับอักเสบเฉียบพลัน และตับอักเสบเรื้อรัง ชนิดเฉียบพลันสามารถหายไปได้โดยที่ไม่ก่อปัญหาสุขภาพร้ายแรง ในขณะที่หากเกิดตับอักเสบและอยู่ในร่างกายอย่างยาวนาน จะถูกเรียกตับอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นตับอักเสบชนิดที่น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะในระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดแผลในตับซ้ำ ๆ จนทำให้เกิดพังผืดในบริเวณแผลเหล่านั้น สะสมกลายเป็นโรคตับแข็งในที่สุด (Liver Cirrhosis) และหากโชคไม่ดีประกอบกับการมีปัจจัยเสี่ยงบางอย่าง ผู้ป่วยบางคนที่เป็นโรคตับแข็งก็อาจพัฒนาไปสู่โรคมะเร็งตับได้

อาการตับอักเสบ

ผู้ป่วยหลายคนที่เป็นตับอักเสบ มักไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย ไม่ชัดเจน แต่หากอักเสบรุนแรงขึ้นผู้ป่วยอามีอาการเช่น

    อ่อนเพลีย 
    รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา 
    เบื่ออาหาร 
    มีไข้ต่ำ ๆ 
    ปวดเมื่อยตามตัว 
    ปัสสาวะสีเข้ม 
    มีภาวะตัวเหลือง หรือ ดีซ่าน 

หากอาการร้ายแรงมาก ๆ ควรพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคตับแข็งแล้วก็ได้   

สาเหตุที่ทำให้ตับอักเสบ

สิ่งที่ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบได้ โดยหลัก ๆ มาจาก 3 สาเหตุ ที่พบบ่อยมี 2 สาเหตุคือการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบและตับอักเสบการแอลกอฮอล์ ส่วนอีกหนึ่งสาเหตุเป็นสาเหตุที่พบได้ไม่บ่อยนักคือ  ตับอักเสบจากภูมิคุ้มกัน 


ไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A)

เชื้อไวรัสตับอักเสบเอ เป็นเชื้อไวรัสมักปนเปื้อนมากับอาหารและเครื่องดื่มที่รับประทาน เมื่อได้รับเชื้อเข้าไปในร่างกาย เชื้อจะใช้เวลาฟักตัวอยู่ที่ 2-6 สัปดาห์ จนกว่าจะมีอาการเช่น ปวด คลื่นไส้ คัน นอกจากนี้เชื้อจะปนเปื้อนออกมากับอุจจาระของผู้ป่วยตั้งแต่ช่วง 2 สัปดาห์ก่อนมีอาการ และโดยธรรมชาติของไวรัสชนิดนี้ มันสามารถทนอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นาน ไวรัสตับอักเสบเอจึงพบได้ในพื้นที่ชุมชนที่สภาพแวดล้อมและสุขอนามัยไม่แข็งแรง

อย่างไรก็ตามไวรัสชนิดนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางไปประเทศหรือพื้นที่ชุมชนที่ขาดการดูแลด้านสุขอนามัย ควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

ตับอกัเสบจากไวรัสตับอักเสบบี

ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B)

เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดนี้เป็นหนึ่งในชนิดที่เป็นปัญหาและยังถูกเฝ้าระวังในประเทศไทยและทั่วโลก จากข้อมูลในแผนยุทธศาสตร์กำจัดโรคไวรัสตับอักเสบ พ.ศ.2565-2573 กรมควบคุมโรค คาดการณ์ว่าในประเทศไทยน่าจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง ประมาณ 2.2-3 ล้านคน 

ไวรัสตับอักเสบบีส่งต่อจากสู่คนสู่คนผ่านเลือด พบได้บ่อยในการแพร่ผ่านเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน การใช้เข็มฉีดยาหรือของมีคมร่วมกัน และการแพร่จากมารดาสู่บุตรขณะคลอด ผู้ติดเชื้อมักเป็นตับอักเสบแบบเฉียบพลัน ซึ่งส่วนใหญ่มักหายได้เอง แต่หากได้รับเชื้อแต่เด็ก หรือร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับไวรัสได้หายเองมักทำให้เกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง ปัจจุบันไวรัสตับอักเสบบีสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน


ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C)

สถานการณ์การระบาดของไวรัสตับอักเสบซีเป็นไวรัสที่ถูกเฝ้าระวังทั้งในไทยและทั่วโลกเช่นเดียวกันกับไวรัสตับอักเสบบี จากการคาดการณ์ในแผนยุทธศาสตร์ฉบับเดียวกันได้ระบุเอาไว้ในปี พ.ศ.2557 ว่า ประเทศไทยน่าจะมีผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังประมาณ 3 แสน 5 หมื่นกว่าราย 

การติดต่อไวรัสตับอักเสบซีโดยหลักการคือแพร่ผ่านเลือดเช่นเดียวกับไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งเสี่ยงรับได้เชื้อไวรัสได้จาก การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อโดยไม่ป้องกัน การใช้เข็มฉีดยาซ้ำหรือใช้ร่วมกัน การใช้มีดโกนหรือแปรงสีฟันร่วมกัน รวมถึงการใช้อุปกรณ์สำหรับสูบหรือเสพสารเสพติด

ไวรัสตับอักเสบซีมักมีอาการไม่ชัดเจน อาจมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เพียงเล็กน้อย เมื่อติดเชื้อมีโอกาสหายเองได้ แต่ก็สามารถทำให้เกิดตับอักเสบเรื้อรังได้เช่นกัน ที่สำคัญยังไม่มีวัคซีนป้องกันเหมือนไวรัสตับอักเสบเอและบี ปัจจุบันการรักษาตับอักเสบเรื้อรังจากสาเหตุนี้จะเป็นการรักษาด้วยยา


ไวรัสตับอักเสบดี (Hepatitis D)

ในจำนวนชนิดไวรัสตับทั้ง 5 ชนิด ไวรัสตับอักเสบดีจะแตกต่างไปจากชนิดอื่น เนื่องจากการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้จะเกิดขึ้นกับผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังเท่านั้น เพราะไวรัสตับอักเสบดีต้องอาศัยการมีอยู่ของไวรัสตับอักเสบบีถึงจะสามารถอยู่ในร่างกายมนุษย์ได้ 

อย่างไรก็ตามไวรัสชนิดนี้โดยส่วนใหญ่มักแพร่ผ่านเลือดและการมีเพศสัมพันธ์ พบบ่อยในยุโรป ตะวันออกกลางแอฟริกา และอเมริกาใต้ ไวรัสชนิดนี้ไม่ได้มีวัคซีนป้องกันโดยเฉพาะแต่หากได้รับวัควีนไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B vaccine) จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบดีไปโดยปริยาย


ไวรัสตับอักเสบอี (Hepatitis E)

ปัจจุบันไวรัสตับอักเสบอีอาจยังไม่ได้มีจำนวนผู้ติดเชื้อในจำนวนมากเท่าไวรัสตับอักเสบชนิด เอ บี และซี แต่ลักษณะในการติดเชื้อหรือแพร่กระจายจะคล้ายกับไวรัสตับอักเสบเอ คือ สามารถติดเชื้อได้จากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนไวรัส ซึ่งการปนเปื้อนในสภาพแวดล้อมก็เกิดจากอุจจาระของผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบอี การระบาดอาจจึงอาจเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ขาดสุขอนามัยที่ดีเช่นเดียวกับการระบาดของไวรัสตับอักเสบเอ


ตับอักเสบการแอลกอฮอล์

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและติดต่อกันเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพตับโดยตรง ตับอักเสบจากแอลกอฮอล์เป็นระยะโรคตับระยะแรก ๆ ที่จะนำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับ โรคตับแข็ง ตับวาย และในบางคนอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งตับได้ ซึ่งเราสามารถลดความเสี่ยงที่จะเป็นตับอักเสบจากสาเหตุนี้ได้จากการดูแลสุขภาพ และจำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ตับอักเสบจากภูมิต้านทานของตัวเอง (Autoimmune hepatitis)

โรคตับอักเสบจากภูมิกันเป็นสาเหตุที่พบได้น้อย เกิดขึ้นจากการที่ภูมิต้านทานในร่างกายโจมตีเซลล์เนื้อเยื่อตับ ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไมภูมิต้านทานในร่างกายถึงต้องทำลายเนื้อเยื่อตับ แต่ก็พบว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับยีนและสภาพแวดล้อมบางอย่าง การรักษาตับอักเสบจากภูมิต้านทานของตัวเองจะใช้ที่ช่วยควบคุมภูมิต้านทานในร่างกายและยาที่ช่วยลดการอักเสบ


อย่าชะล่าใจกับตับอักเสบ

จริงอยู่ตับอักเสบไม่อาการ หรือมีอาการเล็กน้อย และไม่ได้สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตมากนัก แต่นี่คือจุดเริ่มต้นของโรคตับอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง เราจึงควรตระหนักถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพตรงนี้ให้มาก ๆ 

ที่สำคัญการลดความเสี่ยงตับอักเสบด้วยตัวเองจสามารถทำได้ง่ายไม่ยากเลย เพียงแค่รักษาสุขภาพ มีสุขอนามัยที่ดี มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม รับประทานอาหารที่ปรุงสุกและสะอาด พร้อมหมั่นตรวจสุขภาพประจำปี เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เราคอยติดตามสุขภาพก่อนที่โรคบางโรคจะก่อตัวและสะสมจนเป็นอันตราย 



โปรโมทเว็บ โฆษณาสินค้าออนไลน์ ประกาศขายสินค้าฟรี รับจ้างโพสเว็บ รับทำSEOราคาถูก